# 1
เลือกประเภท
การปฏิรูปประเทศในสมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงในด้านใดเป็นสำคัญ
การปฏิรูปประเทศในสมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงในด้านใดเป็นสำคัญ
การศึกษา
การเมืองการปกครอง
เศรษฐกิจและการค้า
การเกษตร
การปฏิรูปประเทศในสมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงในด้านใดเป็นสำคัญ
การศึกษา
การเมืองการปกครอง
เศรษฐกิจและการค้า
การเกษตร
“สนธิสัญญาเบาว์ริ่ง” มีความสำคัญต่อสังคมไทยในแง่ใด
เปิดโอกาสให้ไทยค้าขายกับประเทศตะวันตก
ไทยต้องเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต
รัชกาลที่ 4 ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ
ไทยเสียอำนาจศาลให้ประเทศอังกฤษ
เหตุผลสำคัญที่ไทยต้องปฏิรูปการปกครองในสมัยรัชกาลที่ 5 คืออะไร
เพื่อขยายอาณาเขตประเทศ
เพื่อรวมศูนย์อำนาจและลดอำนาจหัวเมือง
เพื่อสร้างกองทัพที่แข็งแกร่ง
เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา
การเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่ 5 แสดงถึงหลักการสำคัญด้านใด
การสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ
การพัฒนาการศึกษา
การเคารพสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาค
การปรับปรุงการปกครองแบบประชาธิปไตย
“การจัดตั้งกระทรวง ทบวง กรม” เกิดขึ้นเพื่ออะไร
จัดการศึกษาให้มีระบบ
ปฏิรูปการปกครองให้มีประสิทธิภาพ
จัดการค้าขายกับต่างชาติ
สร้างความสัมพันธ์ทางการทูต
รัชกาลที่ 5 ปฏิรูปการคมนาคมโดยสร้างสิ่งใดเป็นครั้งแรก
ถนนพหลโยธิน
รถไฟสายกรุงเทพฯ–อยุธยา
สะพานพระพุทธยอดฟ้า
ทางหลวงมิตรภาพ
“โรงเรียนหลวงในพระบรมมหาราชวัง” ก่อตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลใด เพื่ออะไร
รัชกาลที่ 4 – สอนภาษาอังกฤษ
รัชกาลที่ 4 – สอนวิชาสามัญ
รัชกาลที่ 5 – ฝึกอบรมข้าราชการ
รัชกาลที่ 5 – สอนภาษาไทยแก่ชาวต่างชาติ
เหตุการณ์ใดที่สะท้อนให้เห็นถึงการรักษาเอกราชของไทยในช่วงการล่าอาณานิคม
การทำสนธิสัญญาเบาว์ริ่ง
การเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง
การส่งพระราชโอรสไปศึกษาต่างประเทศ
การปฏิรูประบบศาล
ผลกระทบสำคัญของการปฏิรูปประเทศสมัยรัชกาลที่ 4–5 คืออะไร
ไทยกลายเป็นเมืองขึ้นของตะวันตก
ไทยเกิดความขัดแย้งภายในรุนแรง
ไทยสามารถปรับตัวและรักษาเอกราชไว้ได้
ไทยสูญเสียศาสนาพุทธ
การปฏิรูปประเทศในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่งผลต่อพัฒนาการของสังคมไทยอย่างไร
สังคมไทยมีความทันสมัยและใกล้เคียงตะวันตกมากขึ้น
ระบบเกษตรกรรมเสื่อมถอยลง
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศลดลง
เกิดการแบ่งแยกทางศาสนาอย่างรุนแรง
การจัดตั้ง “สภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน” ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีวัตถุประสงค์หลักคืออะไร
เพื่อปรับปรุงการศึกษา
เพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านการปกครองและบริหาร
เพื่อจัดเก็บภาษีอย่างเป็นระบบ
เพื่อป้องกันการรุกรานจากต่างชาติ
รัชกาลที่ 4 ทรงให้ความสำคัญกับวิชาใดมากที่สุด เพื่อรับมือกับตะวันตก
วิชาการทหาร
วิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์
ประวัติศาสตร์
การเกษตรกรรม
การส่งพระราชโอรสและบุตรเจ้านายไปศึกษาต่างประเทศในสมัยรัชกาลที่ 5 สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดใด
การเตรียมบุคลากรเพื่อการพัฒนาชาติ
การรักษาประเพณีดั้งเดิม
การขยายอำนาจสู่ต่างประเทศ
การสร้างสัมพันธไมตรีกับจีน
“ระบบเทศาภิบาล” ที่รัชกาลที่ 5 ทรงริเริ่มมีเป้าหมายเพื่ออะไร
ปรับปรุงการเก็บภาษี
กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่
รวมศูนย์อำนาจสู่ส่วนกลาง
ขยายอาณาเขตประเทศ
เหตุการณ์ใดเป็นสัญลักษณ์ของการที่ไทยต้องยอมเสียดินแดนให้ชาติตะวันตก
การเสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง
สนธิสัญญาเบาว์ริ่ง
การสถาปนากระทรวงยุติธรรม
การสร้างรถไฟสายกรุงเทพฯ–อยุธยา
การปฏิรูประบบศาลสมัยรัชกาลที่ 5 มีความสำคัญอย่างไร
เพื่อให้ไทยมีระบบยุติธรรมเท่าเทียมกับตะวันตก
เพื่อควบคุมการค้าต่างชาติ
เพื่อปราบปรามกบฏ
เพื่อจัดการภาษีอากร
การใช้เงินตราเหรียญแทนเบี้ยและพดด้วงในสมัยรัชกาลที่ 4–5 แสดงถึงอะไร
การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจสู่ระบบสากล
การเสื่อมถอยของเศรษฐกิจไทย
การขยายการเกษตรแบบดั้งเดิม
การยกเลิกการค้ากับต่างชาติ
เหตุการณ์ “วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112” สะท้อนปัญหาอะไร
การที่ไทยมีการศึกษาไม่ทันสมัย
การที่ฝรั่งเศสกดดันให้ไทยเสียดินแดน
การที่อังกฤษยึดครองการค้าในไทย
การที่ระบบทาสยังคงอยู่
การเลิกทาสแบบค่อยเป็นค่อยไปในสมัยรัชกาลที่ 5 แสดงถึงพระปรีชาญาณด้านใด
การเน้นธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม
การสร้างกฎหมายที่เด็ดขาดทันที
การคงระบบทาสเพื่อเสถียรภาพ
การวางแผนระยะยาวเพื่อลดผลกระทบ
การปฏิรูปประเทศสมัยรัชกาลที่ 4–5 ส่งผลต่อสังคมไทยอย่างไรในระยะยาว
ไทยสูญเสียเอกราช
ไทยพัฒนาเข้าสู่ความทันสมัย
ไทยกลายเป็นอาณานิคมอังกฤษ
ไทยแยกเป็นรัฐอิสระหลายส่วน