อุปสงค์ (Demand) หมายถึงอะไรในทางเศรษฐศาสตร์

• ความต้องการซื้อสินค้าและบริการ

ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ปัจจัยที่มีผลต่ออุปทาน (Supply)

• ต้นทุนการผลิต
• ราคาสินค้า
• เทคโนโลยี
• รสนิยมผู้บริโภค

ถ้าราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ปริมาณอุปสงค์จะลดลง

อุปทาน (Supply) หมายถึงอะไร

• ปริมาณที่ผู้ผลิตขายได้

ข้อใดคือกฎอุปสงค์ (Law of Demand)

• เมื่อราคาสินค้าลดลง ปริมาณอุปสงค์ลดลง
• เมื่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ปริมาณอุปสงค์เพิ่มขึ้น
• เมื่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ปริมาณอุปสงค์ลดลง
• เมื่อราคาสินค้าคงที่ ปริมาณอุปสงค์เปลี่ยนแปลง

ราคาสินค้าสูงขึ้นจะส่งผลให้อุปทานเพิ่มขึ้น

ข้อใดคือปัจจัยที่มีผลต่ออุปสงค์

• ต้นทุนการผลิต
• เทคโนโลยี
• รายได้ของผู้บริโภค
• จำนวนผู้ผลิต

จุดตัดกันของเส้นอุปสงค์และเส้นอุปทานเรียกว่าอะไร

• จุดสมดุล

ถ้ารายได้ของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น อุปสงค์สำหรับสินค้าปกติจะลดลง

ข้อใดต่อไปนี้เป็นผลของการตั้งราคาต่ำกว่าราคาสมดุล

• สินค้าล้นตลาด
• สินค้าขาดแคลน
• อุปสงค์ลดลง
• อุปทานเพิ่มขึ้น

เมื่อเทคโนโลยีการผลิตพัฒนาขึ้น จะส่งผลต่ออุปทานอย่างไร

• อุปทานลดลง
• อุปทานเพิ่มขึ้น
• อุปสงค์ลดลง
• อุปสงค์เพิ่มขึ้น

ราคาสินค้าและบริการในตลาดถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน

ถ้าผู้ผลิตเพิ่มจำนวนมากขึ้นในตลาด อุปทานจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร

• อุปทานลดลง
• อุปทานเพิ่มขึ้น
• อุปสงค์ลดลง
• อุปสงค์เพิ่มขึ้น

สินค้าทดแทน (Substitute Goods) มีผลต่ออุปสงค์อย่างไร

• อุปสงค์ลดลง
• อุปสงค์เพิ่มขึ้น
• อุปทานลดลง
• อุปทานเพิ่มขึ้น

ตลาดที่มีอุปสงค์เท่ากับอุปทานเรียกว่าตลาดสมดุล

ข้อใดคือผลของอุปสงค์มากกว่าอุปทาน

• สินค้าล้นตลาด
• สินค้าขาดแคลน
• ราคาลดลง
• อุปทานเพิ่มขึ้น

ถ้าราคาสินค้าลดลง อุปทานจะลดลงหรือไม่

ข้อใดต่อไปนี้เป็นสินค้าทดแทน

• ข้าวกับก๋วยเตี๋ยว
• เนยกับมาการีน
• เสื้อกับกางเกง
• น้ำกับน้ำแข็ง

การเปลี่ยนแปลงของรสนิยมผู้บริโภคมีผลต่ออุปทานโดยตรง

ข้อใดคือความหมายของอุปสงค์ส่วนเกิน (Excess Demand)

• อุปสงค์มากกว่าอุปทาน
• อุปทานมากกว่าอุปสงค์
• อุปสงค์เท่ากับอุปทาน
• อุปสงค์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง