ข้อความใดกล่าวไม่ถูกต้อง

• 1. พลังงานกระตุ้นเป็นค่าเฉพาะของปฏิกิริยาหนึ่ง ๆ
• 2. โมเลกุลที่จะมาชนกันแล้วเกิดปฏิกิริยาคือโมเลกุลที่มีพลังงานต่ำ ๆ
• 3. ในการเกิดปฏิกิริยาเคมีโมเลกุลของสารตั้งต้นต้องชนกันให้ถูกทิศทาง
• 4. ปฏิกิริยาเคมีบางปฏิกิริยาอาจมีขั้นตอนการเกิดปฏิกิริยาหลายขั้นตอน
• 5. ปฏิกิริยาที่มีพลังงานกระตุ้นต่ำจะมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาสูงกว่าปฏิกิริยาที่มีพลังงานกระตุ้นสูง

พลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยา A + 2B → 2C เท่ากับ 260 kJ/mol และพลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยา2C → A + 2B เท่ากับ 200 kJ/mol ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับปฏิกิริยาไปข้างหน้า

• 1. ปฏิกิริยาดูดพลังงาน 60 kJ/mol
• 2. ปฏิกิริยาคายพลังงาน 60 kJ/mol
• 3. ปฏิกิริยาคายพลังงาน 200 kJ/mol
• 4. ปฏิกิริยาดูดพลังงาน 260 kJ/mol
• 5. ปฏิกิริยาคายพลังงาน 260 kJ/mol

ปฏิกิริยา A (s) + B (aq) → C (aq) + D (g) เป็นปฏิกิริยาคายความร้อน อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้นเมื่อใด

• 1. เพิ่มขนาดของ A ลดความดัน เพิ่มอุณหภูมิ
• 2. ลดขนาดของ A เติมตัวเร่งปฏิกิริยา เพิ่มอุณหภูมิ
• 3. เพิ่มขนาดของ A ลดความเข้มข้นของ B ลด อุณหภูมิ
• 4. ลดขนาดของ A เพิ่มความเข้มข้นของ B ลด อุณหภูมิ
• 5. ลดปริมาณของ A เพิ่มความเข้มข้นของ B ลด อุณหภูมิ

การทดลองในข้อใดมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาสูงที่สุดที่อุณหภูมิเดียวกัน

• 1. ใส่สังกะสีผงละเอียด หนัก 1 กรัม ลงในกรด HCl 0.1 M
• 2. ใส่แผ่นสังกะสี 1 ชิ้น หนัก 1 กรัม ลงในกรด HCl 0.1 M
• 3. ใส่สังกะสีผงละเอียด หนัก 1 กรัม ลงในกรด HCl 0.2 M
• 4. ใส่แผ่นสังกะสี 1 ชิ้น หนัก 1 กรัม ลงในกรด HCl 0.05 M
• 5. ใส่แผ่นสังกะสี 2 ชิ้น หนักแผ่นละ 0.5 กรัม ลงในกรด HCl 0.2 M

การเติมตัวเร่งปฏิกิริยาจะมีผลต่อข้อใด

• 1. ค่าคงที่สมดุล
• 2. ปริมาณผลิตภัณฑ์
• 3. พลังงานของปฏิกิริยา
• 4. ปริมาณของสารตั้งต้น
• 5. พลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยา

6. การกระทำในข้อใดไม่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี

• 1. การเติมสารกันบูดในอาหาร
• 2. การนำเนื้อหมูแช่ในช่องแช่แข็ง
• 3. ใช้แคลเซียมคาร์ไบด์ช่วยในการบ่มมะม่วง
• 4. การเคี้ยวยาลดกรดชนิดเม็ดให้ละเอียดก่อนกลืน
• 5. การเปลี่ยนขนาดภาชนะที่บรรจุสารละลายที่ทำปฏิกิริยา

ข้อใดเป็นเหตุผลที่อธิบายว่า "เมื่อเพิ่มความเข้มข้นของสารตั้งต้นอัตราการเกิดปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น"

• 1. จำนวนอนุภาคของสารตั้งต้นเพิ่มมากขึ้น เป็นการลดพลังงานกระตุ้น
• 2. จำนวนอนุภาคของสารตั้งต้นเพิ่มมากขึ้น เป็นการเพิ่มพื้นที่ผิวของสารตั้งต้น
• 3. จำนวนอนุภาคของสารตั้งต้นเพิ่มมากขึ้น เป็นการบังคับให้อนุภาคชนกันทุกทิศทาง
• 4. จำนวนอนุภาคของสารตั้งต้นเพิ่มมากขึ้น เป็นการทำให้อนุภาคมีโอกาสชนกันมากขึ้น
• 5. จำนวนอนุภาคของสารตั้งต้นเพิ่มมากขึ้น เป็นการทำให้ขั้นตอนในการเกิดปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงไป

การเพิ่มอุณหภูมิมีผลทำให้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเร็วขึ้นเพราะเหตุใด ก. ทำให้อนุภาคที่มีพลังงานสูงเพิ่มขึ้น ข. ทำให้พลังงานก่อกัมมันต์ของสารตั้งต้นลดลง ค. ทำให้อนุภาคของสารตั้งต้นชนกันบ่อยครั้งขึ้น

• 1. ก. เท่านั้น
• 2. ค. เท่านั้น
• 3. ก. และ ข.
• 4. ก. และ ค.
• 5. ก. ข. และ ค.

• 1. ก. และ ข.
• 2. ค. และ ง.
• 3. ก. ข. และ ค.
• 4. ก. ข. และ ง.
• 5. ก. ข. ค. และ ง.

ปฏิกิริยาต่อไปนี้ NO2 (g) + CO (g) → NO (g) + CO2 (g) การเปลี่ยนแปลงในข้อใดไม่ทำให้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น

• 1. เพิ่มปริมาตร NO2
• 2. เพิ่มความดัน CO
• 3. เติมตัวเร่งปฏิกิริยา
• 4. เพิ่มอุณหภูมิของระบบ
• 5. เพิ่มความเข้มข้นของ CO