ในวงจรขนาน กระแสไฟฟ้าจะไหลในวงจรเป็นอย่างไร

• ไหลเท่ากันตลอดทั้งวงจร
• แยกไหลตามสาขาของวงจร
• ไหลผ่านตัวต่านทานเท่ากันทุกตัว
• ไหลผ่านตัวต้านทานที่มีค่าน้อยสุด

แรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมตัวต้านทานในวงจรขนานจะเป็นอย่างไร

• แรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมตัวต้านทานแต่ละตัวจะมีค่าเท่ากันทั้งหมด
• แรงดันไฟฟ้ารวมในวงจรขนานจะมากกว่าแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมตัวต้านทานแต่ละตัว
• แรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมตัวต้านทานในวงจรขนานจะแปรผันตรงกับค่าความต้านทาน
• ตัวต้านทานที่มีค่าโอห์มสูงสุดในวงจรขนานจะได้แรงดันไฟฟ้ามากที่สุด

ข้อใดคือ ค่ากระแสไฟฟ้ารวมของวงจรขนาน

• IT = I1+I2+I3
• IT = I1*I2*I3
• IT = I1-I2-I3
• IT = I1/I2/I3

หน่วยใดต่อไปนี้ใช้สำหรับวัดกำลังไฟฟ้า?

• จูล (Joule)
• วัตต์ (Watt)
• โวลต์-แอมแปร์ (Volt-Ampere)
• แอมแปร์-ชั่วโมง (Ampere-hour)

ในวงจรขนาน กระแสไฟฟ้ารวมที่ออกจากแหล่งจ่ายจะแบ่งไหลไปยังแต่ละสาขา

ในวงจรขนาน แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมแต่ละสาขาจะมีค่าเท่ากันหรือไม่?

การต่อตัวต้านทานหลายตัวแบบอนุกรมส่งผลต่อค่าความต้านทานรวมอย่างไร?

• ทำให้ความต้านทานรวมลดลง
• ทำให้ความต้านทานรวมเพิ่มขึ้น
• ไม่ส่งผลต่อความต้านทานรวม
• ทำให้ความต้านทานรวมเป็นศูนย์

วงจรผสมคืออะไร

• วงจรที่มีตัวต้านทานตัวเดียว
• วงจรที่ต่อขนานอย่างเดียว
• วงจรที่รวมระหว่างวงจรอนุกรมและวงจรขนาน
• วงจรที่ต่อโหลดหลายแบบแบบเดียวกัน

จุดประสงค์ของการต่อวงจรผสมคืออะไร

• ลดแรงดันไฟฟ้า
• เพิ่มความต้านทาน
• ควบคุมแรงดันและกระแสในบางจุด
• ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต

การแก้ไขปัญหา (Troubleshooting) ในวงจรผสมมักจะง่ายกว่าในวงจรอนุกรมเสมอ