1. ข้อใดคือความหมายของระบบนิเวศ

• 1. ความสัมพันธ์ภายในกลุ่มประชากรสิ่งมีชีวิต
• 2. ความสัมพันธ์ของพืชกับสัตว์และสัตว์กับสัตว์
• 3. ความสัมพันธ์ของสารอินทรีย์กับสารอนินทรีย์
• 4. ความสัมพันธ์ของกลุ่มสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม

2. ข้อใดจับคู่ระหว่างเครื่องมือและสิ่งที่ตรวจวัดไม่ถูกต้อง

• 1. เทอร์มอมิเตอร์ วัดอุณหภูมิ
• 2. เซคคิดิสก์ วัดระดับความลึกของน้ำ
• 3. ยูนิเวอร์ซัลอินดิเคเตอร์ วัดความเป็นกรด-เบส
• 4. ถุงลากแพลงก์ตอน เก็บตัวอย่างแพลงก็ดอนในน้ำ

3. ผู้บริโภคลำดับที่ 1 ของระบบนิเวศบนบกเป็นสิ่งมีชีวิตในกลุ่มใด

• 1. สัตว์กินพืช
• 2. สัตว์กินพืชและผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์
• 3. พืชและผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์
• 4. สัตว์กินพืชและสัตว์กินซากพืชซากสัตว์

4. ข้อใดเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับองค์ประกอบทางเคมีในสิ่งแวดล้อม

• 1. กระบองเพชรมีใบเป็นหนาม เพราะบริเวณทะเลทรายมีอุณหภูมิสูงและอากาศแห้ง
• 2. แบคทีเรียในปมรากของพืชตระกูลถั่วสามารถตรึงแก๊สไนโตรเจนในอากาศได้
• 3. เมล็ดต้นแดนดีไลออนมีชนปุยสีขาวทำให้สามารถอยตามตามกระแสลมได้
• 4. นกพิราบสื่อสารสามารถใช้สนามแม่เหล็กโลกไนการรับรู้ทิศทาง

5. ความแตกต่างระหว่างผู้บริโภคชากพืชซากสัตว์กับผู้ย่อยสลายคือชัอใด

• 1. ขนาดร่างกาย
• 2. ความสามารถในการสังเคราะห์ด้วยแสง
• 3. แหล่งที่อยู่อาศัย
• 4. ผลิตภัณฑ์หลังจากกระบวนการย่อยอาหาร

6. ระบบนิเวศในบริเวณทะเลล็ก เช่น ร่องลึกกันสมุทร จะไม่พบสิ่งมีชีวิตประเภทใด

• 1. ผู้ผลิตและผู้บริโภคสัตว์
• 2. ผู้ผลิตและผู้บริโภคพืช
• 3. ผู้บริโภคพืชและผู้บริโภคสัตว์
• 4. ผู้ผลิตและผู้ย่อยสลาย

7. แบคทีเรีย Escherichia coli ที่อาศัยในลำไส้มนุษย์ มีความสัมพันธ์แบบเดียวกับสิ่งมีชีวิตในข้อใด

• 1. ดอกไม้กับแมลง
• 2. กล้วยไม้บนต้นไม้ใหญ่
• 3. พยาธิใบไม้ในตัวมนุษย์
• 4. แหนแดงกับไซยาโนแบคทีเรีย

8. ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในข้อใดที่แตกต่างจากข้ออื่น ๆ ในเรื่องของการถ่ายทอดพลังงาน

• 1. ทากดูดเลือดคน
• 2. นกเค้าแมวล่าเหยื่อ
• 3. แมลงกับต้นกาบหอยแครง
• 4. เฟินชายผ้าสีดาบนต้นไม้ใหญ่

9. "นกกาเหว่าตัวเมียมักจะไข่ลงในรังของนกเอี้ยงเพื่อให้แม่นกเอี้ยงเลี้ยงดูลูกของนกกาเหว่าแทน เนื่องจากลูกนกกาเหว่าจะฟักออกมาก่อน และเจริญเติบโตเร็วกว่าลูกนกเอี้ยงมากลูกนกกาเหว่าจึงมักอยู่รอดในขณะที่ลูก

• 1. ภาวะปรสิต
• 2. ภาวะล่าเหยื่อ
• 3. ภาวะอิงอาศัย
• 4. ภาวะแก่งแย่งแข่งขัน

10. จากกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด ความหนาแน่นของประชากรของสิ่งมีชีวิต A และ B แสดงด้วยเส้นทึบและเส้นประ ตามลำดับ สิ่งมีชีวิต A และ B หมายถึงสิ่งมีชีวิตในข้อใด

• 1. สิ่งมีชีวิต A คือ งูเห่า สิ่งมีชีวิต B คือ หนูนา
• 2. สิ่งมีชีวิต A คือ ดอกไม้ สิ่งมีชีวิต B คือ ผีเสื้อ
• 3. สิ่งมีชีวิต A คือ กลัวยไม้ สิ่งมีชีวิต B คือ ต้นประดู่
• 4. สิ่งมีชีวิต A คือ ดอกไม้ทะเล สิ่งมีชีวิต B คือ ปลาการ์ตูน

11. ตารางแสดงสารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตกับสารที่สร้างและปล่อยออกมาสู่สิ่งแวดล้อมของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในแหล่งที่อยู่เดียวกัน ข้อใดคือความสัมพันธ์ที่ถูกต้องระหว่างแบคที่เรียชนิด A กับ B และชนิด A

• 1. ภาวะปรสิต ภาวะพึ่งพากัน
• 2. ภาวะอิงอาศัย ภาวะพึ่งพากัน
• 3. ภาวะปรสิต ภาวะอิงอาศัย
• 4. ภาวะแก่งแย่งแข่งขัน ภาวะอิงอาศัย

12. โซ่อาหารในข้อใดที่แตกต่างจากข้ออื่นในด้านแหล่งพลังงานเริ่มต้น

13. สิ่งมีชีวิตกลุ่มใดที่ทำให้สารต่าง ๆ เกิดการหมุนเวียนเป็นวัฏจักรอยู่ในระบนิเวศ

• 1. ผู้ผลิตและผู้บริโภค
• 2. ผู้บริโภคและผู้ย่อยสลาย
• 3. ผู้ผลิตและผู้ย่อยสลาย
• 4. ผู้บริโภคซากพืชซากสัตว์และผู้ย่อยสลาย

14. ในระบบนิเวศแห่งหนึ่งมีการถ่ายทอดพลังงานในรูปสายใยอาหารดังแผนภาพ ข้อใดอธิบายไม่ถูกต้อง

• 1. ถ้ามีการฉีดสารเคมีกำจัดวัชพืช นกจะมีการสะสมสารเคมีมากกว่าหอยทาก
• 2. ถ้ากระต่ายเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้จำนวนแมลงและหอยทากลดลงเพราะอาหารน้อยลง
• 3. ถ้ากบและนกมีจำนวนลดลง แมลงและหอยทากจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพราะผู้ล่าลดลง
• 4. พลังงานในโซ่อาหารจะถ่ายทอดไปที่เหยี่ยวมากที่สุด เพราะเป็นริโภคลำดับสุดท้าย

15. ในป่าแห่งหนึ่งประกอบด้วยเสือ สิงโต กวาง และพืชตระกูลเฟิน เมื่อเสือและสิงโตแย่งกันล่ากวาง สิงโตจะได้รับพลังงานจากการกินกวางเท่าไร กำหนดให้เฟินมีพลังงานสะสม 200,000 จูล

• 1. 1,000 จูล
• 2. 2,000 จูล
• 3. 4,000 จูล
• 4. 8,000 จูล

16. ถ้าพลังงานศักย์สะสมในสิ่งมีชีวิต A มีค่าเป็น X แล้วพลังงานที่สิ่งมีชีวิต C ได้รับมีค่าไร

• 1. 20x
• 2. 100x
• 3. 0.2x
• 4. 0.01x

17. ถ้าบริเวณป่าชายเลนแห่งหนึ่งมีปรอทปนเปื้อน สิ่งมีชีวิตใดที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด

• 1. ต้นแสมดำ
• 2. นกกินปลา
• 3. ปูก้ามดาบ
• 4. ปลาตีน

18. ข้อใดต่อไปนี้สรุปได้ถูกต้อง

• 1. สร้อยนางกรอง ข้องนางคลี่ ชายผ้าสีตา เป็นพืชอิงอาศัยกับตันไม้ใหญ่
• 2. พืชกินแมลง เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง มีบทบาทเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ย่อยสลาย
• 3. สิ่งมีชีวิตหนึ่งจะมีพลังงานศักย์สะสมเพิ่มขึ้น 10% เทียบกับสิ่งมีชีวิตอีกชนิดที่มากิน
• 4. สารพิษจากโลหะหนักในสิ่งแว่ดล้อมจะสะสมเพิ่มขึ้น 10% ทุก การกินระหว่างสิ่งมีชีวิต

19. ถ้าระบบนิเวศแห่งหนึ่งมีสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด การถ่ายทอดพลังงานจะเป็นอย่างไร

• 1. สายใยอาหารในบริเวณนั้นจะมีความซับซ้อนมาก
• 2. โซ่อาหารในบริเวณนั้นจะเริ่มต้นจากผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์
• 3. พลังงานจะถูกใช้หมุนเวียนอยู่ในระบนิเวศนั้นเป็นเวลานาน
• 4. โซ่อาหารในบริเวณนั้นส่วนใหญ่ประกอบตัวยสิ่งมีชีวิตมากว่า 5 ชนิด

20. สาเหตุสำคัญที่ทำให้โซ่อาหารส่วนใหญ่มีมีลำดับขั้นการกินอาหารไม่เกิน 4 หรือ 5 ขั้น คือข้อใด

• 1. อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงของผู้ผลิตถูกจำกัดด้วยอัตราการย่อยสลายของผู้ย่อยสลาย
• 2. ประสิทธิภาพของการถ่ายทอดพลังงานในแต่ละลำดับขั้นการกินอาหารมีค่าต่ำกว่า 100%
• 3. ผู้บริโภคลำกับสุดท้ายของโซ่อาหาเป็นสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ซึ่งไม่มีสัตว์อื่นล่าเป็นอาหาร
• 4. สัตว์ส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภคปฐมภูมิที่กินพืชทำให้เหลือผู้บริโภคที่กินเนื้อสัตว์เป็นจำนวนน้อย