sinoatrial node พบที่บริเวณไหน

• right atrium
• right ventricle
• left atrium
• left ventricle

ข้อใดคือหน้าที่หลักของลิ้นหัวใจ

• ช่วยกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจ
• แบ่งแยกเลือดแดงกับเลือดดำ
• ควบคุมทิศทางการหมุนเวียนของเลือด
• ควบคุมความเร็วของการหมุนเวียนของเลือด
• ควบคุมการบีบตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ

ส่วนประกอบของเลือดในข้อใดทำหน้าที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวเมื่อเกิดบาดแผล

• Albumin
• Leukocyte
• Erythrocyte
• Platelets

สัตว์ในข้อใดพบเลือดใน hemocoel

• ม้า อึ่งอ่าง
• หมึก นก
• มด ตั๊กแตน
• กบ ปลา
• กุ้ง ไส้เดือนดิน

หลักการสำคัญของการให้เลือดในระบบ ABO คืออะไร

• แอนติเจนของผู้ให้ต้องเหมือนกับแอนติบอดีของผู้รับ
• ผู้ให้และผู้รับต้องมีเลือดหมู่เดียวกันเท่านั้น
• ผู้ที่มีเลือดหมู่ O ให้เลือดได้เฉพาะหมู่ 0 เท่านั้น
• แอนติเจนของผู้ให้ต้องแตกต่างกับแอนติบอดีของผู้รับ
• ผู้ที่มีเลือดหมู่ AB ให้เลือดกับผู้ที่มีเลือดหมู่ A B และ AB

สัตว์ในข้อใดต่อไปนี้ไม่มีระบบหมุนเวียนสารทุกชนิด

• หอยลาย หมึก ยุงลาย
• ฟองน้ำ แมงกะพรุน พลานาเรีย
• เม่นทะเล แมงมุม แมวน้ำ
• แมงกะพรุน ไฮดรา หมึก
• หนอนตัวกลม ไส้เดือนดิน หอยทาก

แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากบริเวณขาถูกลำเลียงโดยกระแสเลือดไปขับออกทางจมูกจะไม่ผ่านโครงสร้างใด

• Pulmonary vein
• Right ventricle
• Tricuspid valve
• Inferior vena cava

จากภาพ หลอดเลือดท่ีนําเลือดอออกจากหัวใจห้องเอเทรียมของปลา เปรียบได้กับโครงสร้างหมายเลขใด

• 1
• 2
• 3
• 4

ถ้ามีความจําเป็นต้องให้เลือดหลายคร้ังในช่วง 1-2 ปี การให้เลือดแบบใดจึงจะมีความปลอดภัยมากท่ีสุด (ผู้ให้ --> ผู้รับ)

• O+ --> A+
• A- --> A+
• B+ --> B-
• A- --> AB-

โครงสร้าง chordae tendineae พบที่ semilunar valve

AV node พบใกล้กับ tricuspid valve

หลอดเลือด coronary artery เป็นแขนงของหลอดเลือด aorta

บริเวณ interventricular septum เกี่ยวข้องกับการนำคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

โปรตีนขนิดใด ไม่พบในพลาสมา

• เฮโมโกลบิน
• อัลบูมิน
• อิมมูโนโกลบูลิน
• ไฟบริโนเจน
• โพรทรอมบิน

สัตว์ในไฟลัมอาร์โทรโพดาและไฟลัมมอลลัสกาทุกชนิด มีระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิด

สัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดมีระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิด ที่มีหัวใจ 4 ห้อง ไม่สมบูรณ์

หลอดเลือดอาร์เทอร์เป็นหลอดเลือดที่มีปริมาณแก๊สออกซิเจนสูง ยกเว้น พัลโมนารีอาร์เทอรีจะมีปริมาณแก๊สออกซิเจนต่ำ

หลอดเลือดเวนสามารถยึดหยุ่นได้น้อย ทำให้แรงดันในเลือดต่ำ จึงต้อง มีลิ้นหัวใจกั้นป้องกันการไหลย้อนกลับของเลือด

การเจาะเลือดเพื่อตรวจหรือบริจาดเลือด ควรเจาะเลือดจาก หลอดเลือดใด เพราะเหตุใด

• หลอดเลือดฝอย เพราะมีผนังบางที่สุด
• หลอดเลือดเวน เพราะมีแรงดันเลือดต่ำ
• หลอดเลือดอาร์เทอรี เพราะมีแรงดันเลือดสูงและคงที่
• หลอดเลือดเวน เพราะลำเลียงเลือดที่มีแก๊สออกชิเจนต่ำ
• หลอดเลือดอาร์เทอรี เพราะลำเลียงเลือดที่มีแก๊สออกซิเจนสูง

ข้อใดกล่าวถึงความแตกต่างของหลอดเลือดอาร์เทอรีและ หลอดเลือดเวนได้ถูกต้อง

• ลิ้นในหลอดเลือดพบเฉพาะในหลอดเลือดอาร์เทอรี
• ช่องภายในหลอดเลือดอาร์เทอรีกว้างกว่าหลอดเลือดเวน
• หลอดเลือดอาร์เทอรีมีความยึดหยุ่นสูงกว่าหลอดเลือดเวน
• หลอดเลือดเวนมีแรงดันในหลอดเลือดสูงกว่าหลอดเลือด อาร์เทอรี
• หลอดเลือดอาร์เทอรีมีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น แต่หลอดเลือดเวน มีเพียง 2 ชั้น