# 1เลือกประเภท"บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญา ก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา"มาตรา 60มาตรา 59 วรรค 1มาตรา 61มาตรา 62
# 2เลือกประเภท"เว้นแต่ จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท"มาตรา 59 วรรค 1มาตรา 60มาตรา 61มาตรา 62
# 3เลือกประเภท"หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา"มาตรา 60มาตรา 61มาตรา 59 วรรค 1มาตรา 80
# 4เลือกประเภท"กระทำโดยเจตนา ได้แก่กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำและในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น"มาตรา 59 วรรค 2มาตรา 60มาตรา 65มาตรา 63
# 5เลือกประเภท "ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้"มาตรา 1มาตรา 59 วรรค 1มาตรา 59 วรรค 2มาตรา 59 วรรค 3
# 6เลือกประเภทกระทำโดยประมาท ได้แก่กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงมาตรา 59 วรรค 4มาตรา 59 วรรค 1มาตรา 59 วรรค 3มาตรา 59 วรรค 2
# 7เลือกประเภท"ผู้ใดเจตนาที่จะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ผลของการกระทำเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งโดยพลาดไป ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำโดยเจตนาแก่บุคคลซึ่งได้รับผลร้ายจากการกระทำนั้น"มาตรา 80มาตรา 60มาตรา 61มาตรา 70
# 8เลือกประเภท“ผู้ใดเจตนาจะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ได้กระทำต่ออีกบุคคลหนึ่งโดยสำคัญผิด ผู้นั้นจะยกเอาความสำคัญผิดเป็นข้อแก้ตัวว่ามิได้กระทำโดยเจตนาหาได้ไม่”มาตรา 60มาตรา 61มาตรา 62มาตรา 63
# 9เลือกประเภท“ข้อเท็จจริงใด ถ้ามีอยู่จริงจะทำให้การกระทำไม่เป็นความผิด หรือทำให้ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษ หรือได้รับโทษน้อยลง"มาตรา 62 วรรค 1มาตรา 59มาตรา 60มาตรา 61
# 10เลือกประเภท"แม้ข้อเท็จจริงนั้นจะไม่มีอยู่จริง แต่ผู้กระทำสำคัญผิดว่ามีอยู่จริง ผู้กระทำย่อมไม่มีความผิด หรือได้รับยกเว้นโทษ หรือได้รับโทษน้อยลง แล้วแต่กรณี"มาตรา 62 วรรค 1มาตรา 63มาตรา 64มาตรา 70
# 11เลือกประเภทถ้าความไม่รู้ข้อเท็จจริงตามความในวรรคสาม แห่งมาตรา 57 หรือความสำคัญผิดว่ามีอยู่จริงตามความในวรรคแรก ได้เกิดขึ้นด้วยความประมาทของผู้กระทำความผิด ให้ผู้กระทำรับผิดฐานกระทำโดยประมาทมาตรา 62 วรรค 1มาตรา 62 วรรค 2มาตรา 59มาตรา 70
# 12เลือกประเภท"บุคคลจะต้องรับโทษหนักขึ้นโดยอาศัยข้อเท็จจริงใด บุคคลนั้นจะต้องได้รู้ข้อเท็จจริงนั้น”มาตรา 61มาตรา 62 วรรค 3มาตรา 80มาตรา 100
# 13เลือกประเภทผู้ใดกระทำความผิดด้วยความ (จำเป็น) (๑) เพราะอยู่ในที่บังคับ หรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนได้ มาตรา 67 (1)มาตรา 59มาตรา 60มาตรา 61
# 14เลือกประเภทผู้ใดกระทำความผิดด้วยความ (จำเป็น) (๒) เพราะเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้ เมื่อภยันตรายนั้นตนมิได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะความผิดของตนมาตรา 50มาตรา 90 มาตรา 80มาตรา 67 (2)
# 15เลือกประเภทผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบมาตรา 65มาตรา 67มาตรา 68มาตรา 69
# 16เลือกประเภท"ผู้ใดบันดาลโทสะ โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้”มาตรา 80มาตรา 72มาตรา 70มาตรา 82
# 17เลือกประเภท“ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด"มาตรา 80มาตรา 59มาตรา 60มาตรา 62
# 18เลือกประเภท“ผู้ใดพยายามกระทำความผิด หากยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด หรือกลับใจแก้ไขไม่ให้การกระทำนั้นบรรลุผล ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ"มาตรา 82มาตรา 81มาตรา 79มาตรา 59
# 19เลือกประเภทถ้าการที่ได้กระทำไปแล้วต้องตามบทกฎหมายที่บัญญัติเป็นความผิด ผู้นั้นต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น ๆมาตรา 59มาตรา 82มาตรา 80มาตรา 81
# 20เลือกประเภท“ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ”มาตรา 80มาตรา 81มาตรา 83มาตรา 84