1. ข้อใดคือความหมายของ "บริการสุขภาพ" ที่ถูกต้องที่สุด

• ก. การรักษาโรคเมื่อเจ็บป่วยเท่านั้น
• ข. การส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
• ค. การให้บริการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเท่านั้น
• ง. การซื้อยาและเวชภัณฑ์ด้วยตนเอง

2. บริการสุขภาพใดที่นักเรียนสามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุดในชีวิตประจำวัน

• ก. การผ่าตัด
• ข. การตรวจสุขภาพประจำปี
• ค. การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
• ง. การรับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง

3. ข้อใดเป็นความสำคัญของการมีบริการสุขภาพที่ดีในชุมชน

• ก. ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
• ข. ช่วยลดอัตราการเกิดโรคและเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน
• ค. ทำให้ชุมชนมีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
• ง. ช่วยลดปัญหาการว่างงานในชุมชน

4. นักเรียนควรเลือกใช้บริการสุขภาพอย่างไรเมื่อมีอาการป่วย

• ก. ซื้อยาแก้ปวดทานเอง
• ข. ไปพบแพทย์ที่คลินิกหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน
• ค. รอให้อาการหายเอง
• ง. ใช้ยาสมุนไพรที่ไม่รู้จัก

5. ข้อใดเป็นการดูแลสุขภาพตนเองเบื้องต้นที่นักเรียนสามารถปฏิบัติได้

• ก. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนเพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
• ข. การดื่มสุราและสูบบุหรี่
• ค. การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ตลอดวัน
• ง. การนอนดึกและตื่นสาย

6. หากนักเรียนประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย เช่น หกล้ม ข้อใดเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้อง

• ก. ทาแผลด้วยแอลกอฮอล์
• ข. ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและใส่ยาฆ่าเชื้อ
• ค. ปล่อยแผลไว้โดยไม่ทำอะไร
• ง. ใช้ผ้าพันแผลปิดแผลทันที

7. นักเรียนจะป้องกันตนเองจากโรคติดต่อได้อย่างไร

• ก. ไม่ออกไปไหน
• ข. รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด
• ค. รับประทานอาหารที่ไม่ปรุงสุก
• ง. ไม่พบปะผู้คน

8. ข้อใดเป็นประโยชน์ของการตรวจสุขภาพประจำปี

• ก. ทำให้ทราบผลการเรียน
• ข. ช่วยให้ทราบสถานะสุขภาพของตนเอง และสามารถป้องกันหรือรักษาโรคได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
• ค. ทำให้มีเพื่อนมากขึ้น
• ง. ทำให้ได้ออกไปเที่ยว

9. นักเรียนควรเลือกใช้บริการสุขภาพจากแหล่งใด

• ก. แหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือในอินเทอร์เน็ต
• ข. สถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน
• ค. เพื่อนบ้าน
• ง. หมอดู

10. หากนักเรียนมีปัญหาด้านสุขภาพจิต ควรทำอย่างไร

• ก. เก็บปัญหาไว้คนเดียว
• ข. ไปปรึกษาพ่อแม่ ครู อาจารย์ หรือผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ
• ค. ไปซื้อยาแก้เครียดทานเอง
• ง. ไปเล่นเกม

11.ข้อใดเป็นบริการสุขภาพที่มุ่งเน้นการป้องกันโรคมากกว่าการรักษา

• ก. การผ่าตัดหัวใจ
• ข. การกินยาปฏิชีวนะ
• ค. การฉีดวัคซีนป้องกันโรค
• ง. การทำกายภาพบำบัด

12. ข้อใดเป็นสัญญาณเตือนว่านักเรียนควรไปพบแพทย์

• ก. มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ติดต่อกันหลายวัน
• ข. รู้สึกเบื่ออาหารเล็กน้อย
• ค. นอนหลับไม่ค่อย
• ง. มีอาการปวดเมื่อยตามตัวบ้าง

13. นักเรียนมีสิทธิอะไรบ้างในการรับบริการสุขภาพ

• ก. สิทธิในการได้รับการรักษาฟรี
• ข. สิทธิในการเลือกวิธีการรักษา
• ค. สิทธิในการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง
• ง. ถูกทุกข้อ

14. ข้อใดเป็นการใช้บริการสุขภาพที่ไม่เหมาะสม

• ก. การซื้อยาแก้ปวดทานเองเมื่อมีอาการปวด
• ข. การไปพบแพทย์เมื่อมีอาการป่วย
• ค. การตรวจสุขภาพประจำปี
• ง. การขอคำปรึกษาจากเภสัชกร

15. ข้อใดคือความหมายของ "การสร้างเสริมสุขภาพ"

• ก. การรักษาโรคที่เกิดขึ้นแล้ว
• ข. การป้องกันไม่ให้เกิดโรค
• ค. การฟื้นฟูสุขภาพหลังจากเจ็บป่วย
• ง. การส่งเสริมให้มีสุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง

16. บริการสุขภาพใดที่นักเรียนสามารถเข้าถึงได้ฟรีตามสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

• ก. การผ่าตัดศัลยกรรมความงาม
• ข. การรักษาโรคทั่วไป
• ค. การทำฟันปลอม
• ง. การตรวจสุขภาพประจำปี

17. นักเรียนสามารถเข้ารับบริการสุขภาพใดได้บ้างที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)

• ก. การผ่าตัดใหญ่
• ข. การรักษาโรคทั่วไปและการส่งเสริมสุขภาพเบื้องต้น
• ค. การรักษาโรคเฉพาะทาง
• ง. การทำกายภาพบำบัดขั้นสูง

18. ข้อใดเป็นหลักการพื้นฐานของการส่งเสริมสุขภาพ

• ก. การมีส่วนร่วมของบุคคลและชุมชน
• ข. การเข้าถึงบริการสุขภาพ
• ค. การมีข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้อง
• ง. ถูกทุกข้อ

นักเรียนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้จากที่ไหนบ้าง

• โรงพยาบาล

• คลินิก

• สถานพยาบาล

• โรงเรียน

• สถานีอนามัย

การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยลดความเครียด