กังหันน้ำอาศัยแรงของน้ำไหลทำให้ใบพัด (ล้อ) หมุน ซึ่งส่งแรงบิดไปยังเพลาและขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หลักการนี้ตรงกับการออกแรงหมุนล้อเพื่อทำให้เพลาหมุน

เมื่อปั่นจักรยาน แรงจากเท้าจะหมุนเพลา (บันไดและจานโซ่) ซึ่งส่งแรงบิดไปยังล้อหลัง ทำให้จักรยานเคลื่อนที่

ล้อที่มีขนาดใหญ่ช่วยลดแรงเสียดทานและทำให้สามารถเคลื่อนย้ายของหนักได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นหลักการที่กลไกล้อและเพลาช่วยผ่อนแรง

ล้อที่มีรัศมีใหญ่จะเพิ่มแรงบิด ทำให้ใช้แรงน้อยลงในการหมุนเพลา

การหล่อลื่นช่วยลดแรงเสียดทานและป้องกันการสึกหรอของเพลาและล้อ

สว่านไฟฟ้าใช้มอเตอร์หมุนเพลา ซึ่งส่งแรงบิดไปยังดอกสว่าน ทำให้สามารถเจาะวัสดุได้ง่าย

เครื่องยนต์ส่งแรงบิดไปยังเพลาขับ ซึ่งถ่ายทอดแรงไปยังล้อ ทำให้รถเคลื่อนที่

ในการออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง รถต้องใช้แรงบิดสูงเพื่อเอาชนะแรงเสียดทานและแรงต้าน

คำนวณจากสมการ Torque = Force × Radius → 20 = 10 × r → r = (ไม่บอกหรอก) เมตร

รถยนต์ไฟฟ้าใช้หลักการของกลไกล้อและเพลาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อน ลดการสูญเสียพลังงาน และช่วยให้เกิดความยั่งยืนด้านพลังงาน