Question 1Multiple Choiceกลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า ต้นฉบับมาจากกวีนิพนธ์ของใครพระยาอุปกิตศิลปสารโทมัส เกรย์โทมัส อันวาเอดิสัน
Question 2Multiple Choiceใครเป็นผู้แต่งกลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า เสฐียรโกเศศ นาคะประทีป พระยาอุปกิตศิลปสาร
Question 3Multiple Choiceกวีนิพนธ์ Elegy Written in a Country มีต้นกำเนิดมาจากประเทศใดไทยอังกฤษออสเตรเลีย
Question 4Multiple Choiceข้อใดไม่ใช่ลักษณะคำประพันธ์ของกลอนดอกสร้อยมีรูปฉันทลักษณ์เหมือนกลอนสุภาพขึ้นต้นด้วยคำว่า เอ๋ย ลงท่ายด้วยคำว่า เอยวรรคแรกใช้คำ ๕ คำขึ้นต้นบทกลอน
Question 5Multiple Choice“ถือเป็นที่รโหฐานนมนานมา ให้เสื่อมผาสุกสันต์ของมันเอย” คำว่า รโหฐาน มีความหมายว่าอย่างไรที่อยู่ที่เฉพาะส่วนตัวเย็น ร่ม ชื้น
Question 6Multiple Choice“มุ่งแต่โปรยเครื่องปรุงจรุงกลิ่น คือความฟูมฟายสินลิ้นโอหัง” คำว่า ฟูมฟาย มีความหมายว่าอย่างไรอร่อยมูมมาม สุรุ่ยสุร่าย มากมาย
Question 7Multiple Choice“วังเอ๋ยวังเวง หง่างเหง่ง! ย่ำค่ำระฆังขาน” ข้อความข้างต้นใช้โวหารภาพพจน์แบบใด อติพจน์บุคลาธิษฐานสัทพจน์
Question 8Multiple Choiceคำประพันธ์ต่อไปนี้ใช้โวหารภาพพจน์ประเภทใด “ห่วงเอ๋ยห่วงอะไร ไม่ยิ่งใหญ่เท่าห่วงดวงชีวิต แม้คนลืมสิ่งใดได้สนิท ก็ยังคิดขึ้นได้เมื่อใกล้ตาย”อุปมาอุปลักษณ์นามนัย
Question 9Multiple Choiceคำประพันธ์ต่อไปนี้มีคุณค่าด้านใด “นกเอ๋ยนกแสก จับจ้องร้องแจ๊กเพียงแถกขวัญ อยู่บนยอดหอระฆังบังแสงจันทร์ มีเถาวัลย์รุงรังถึงหลังคา คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ด้านการใช้คำ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ด้านการใช้ภาพพจน์คุณค่าด้านสังคม ด้านการให้ข้อคิด
Question 10Multiple Choiceข้อใดมีคุณค่าด้านสังคมเด่นชัดที่สุดห่างเอ๋ยห่างไกล ห่างจากพวกมักใหญ่ใฝ่หาแต่สิ่งซึ่งเหลวไหลใส่อาตมา ความมักน้อยชาวนาไม่น้อมไป สันโดษดับฟุ้งซ่านทะยานใจ ตามวิสัยชาวนาเย็นกว่าเอย